วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556

คลอโรฟิลล์-พลังงานสีเขียวเพื่อสุขวัฒนะ 2

  อัลฟัลฟ่า อุดมไปด้วยเม็ดเลือดสีเขียวของพืช
   โดยสัญชาติญาณเราจะรู้สึกสงบ ผ่อนคลายและสบายใจกีชับสีเขียว ทั้งนี้เพราะสีเขียวก่อให้เกิดภาพพจน์ของธรรมชาติ  ที่อุดมสมบรูณ์และภาพพจน์ของคลอโรฟิลล์
     คลอโรฟิลล์มีสีเขียวเข้ม เป็นคลอโรฟิลล์สดที่ได้จากอัลฟัลฟ่าที่เติบโตอย่างแข็งแรง คลอโรฟิลล์ได้รู้จักกันมานานนับกว่าร้อยปี คือ เม็ดสีเขียวซึ่งเชื่อกันว่า  จะเปลี่ยนเม็ดเลือดแดงเมื่อมนุษย์บริโภคเข้าไป เมื่อพิจราณาถึงสูตรโครงสร้างทางเคมีแล้ว จะเห็นว่าคลอโรฟิลล์และเม็ดเลือดแดงมนุษย์มีสูตรโครงสร้างที่เป็นฝาแฝดกัน จะต่างกันแต่ธาตุเหล็ก  และธาตุแมกนีเซียมที่มีอยู่ในเม็ดเลือดแดงและคลอโรฟิลล์ตามลำดับเท่านั้น   
     พลังงานและคุณค่าของคลอโรฟิลล์ต่อร่างกายมนุษย์มีมากอย่างคาดไม่ถึง สามารถช่วยระบายการย่อยอาหารได้ เมื่อท่านมีปัญหาเกี่ยวกับระบบการย่อยอาหาร โรคกระเพาะ หรือแผลในกระเพาะอาหาร อาการเจ็บปวดและคลื่นเหียนจะทุเลาทันทีที่ดืมคลอโรฟิลล์ หรือน้ำอัลฟัลฟ่า
     นอกจากนี้ คลอโรฟิลล์ยังช่วยสมานแผลในกระเพาะและแผลภายนอกที่ถูกไฟลวก หรือแผลพุพอง
ให้ลดอาการอักเสบและหายได้อย่างรวดเร็ว
  อุดมด้วยโภชนาการ
     นอกจากคลอโรฟิลล์แล้ว อัลฟัลฟ่ายังมีโภชนาการสมดุลและสมบรูณ์ด้วยโปรตีน ไวตามิน เกลือแร่ เอ็นไซม์และสารแอนตี้ออกซิแดนท์
     ไวตามินมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพร่างกาย จึงทำให้มีการผลิตไวตามินสังเคราะห์ขึ้นมาจำหน่ายใน
ท้องตลาดการบริโภคไวตามินสังเคราะห์ในอัตราสูงๆเพียงชนิดเดียวอาจเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงได้
     ร่างกายต้องการไวตามิน แต่ปริมาณความต้องการไวตามินของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไป การ
บริโภคไวตามินในรูปอาหารธรรมชาติจะทำให้ได้สารอาหารที่สมดุลเข้าไปในร่างกาย กล่าวคือ ได้ทั้งไว
ตามิน เกลือแร่ และเอ็นไซม์ ซึ่งจะมีบทบาทเสริมพลังต่อกันให้ได้ประโยชน์ต่อร่างกายสูงสุดและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
     อัลฟัลฟ่าอุดมไปด้วยไวตามิน เช่น แคโรทีนนอยด์ (ไวตามินเอ) ไวตามินบี 1, บี 6, ไวตามินซี, ไว
ตามินอี, ไวตามินดี, ไวตามินเค, ไนอะซีน, ไบโอทีนและแพนโทธีนิค,รวมทั้งยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็นครบถ้วนทั้ง 8 ชนิด ได้แก่ กรดอะมิโนไลโซลิวซีน ลิวซีน ไลซีน เมไธโอมีน ฟีนอลอะลามีน เทรโอนีน
ทริปโตฟาน และวาลีน กรดอะมิโนเหล่านี้ ร่างกายของเราไม่สามารถสร้างเองได้ แต่ต้องมีไว้เพื่อใช้ประ
โยชน์ในการสร้างเนื้อเยื้อต่างๆ
     พลังสีเขียวที่ได้จากอัลฟัลฟ่า เป็นแหล่งไวตามีนอย่างดี และมีความปลอดภัยต่อการบริโภคเพราะเป็นอาหารธรรมชาติที่สมดุลกัน ดังนั้นจึงไม่ต้องวิตกเกี่ยวกับการบริโภคเกินกว่าอัตรากำหนดว่าจะมีผล
ข้างเคียง
  ผลของเปอร์ออกซิเดส (Peroxidase) ในการต่อต้านโรคมะเร็ง
     คลอโรฟิลล์จากอัลฟัลฟ่า มีเอ็นไซม์ ชื่อ เปอร์ออกซิเดส ทำหน้าที่สลายอนุมูลอิสระหรือสารก่อมะเร็งและป้องกันเซลล์ปกติไม่ให้เป็นเซลล์มะเร็ง
     นอกจากนี้คลอโรฟิลล์จากอัลฟัลฟ่ายังมีไวตามีนที่ทำหน้าที่เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ เป็นจำนวนมาก เช่น ไวตามินเอ ไวตามินซี และไวตามินอี ซึ่งช่วยกำจัดสารก่อมะเร็งอีกด้วย
     การที่ไวตามินเหล่านี้ทำงานร่วมกับเอ็นไซม์
เปอร์ออกซิเดส จึงทำให้คลอโรฟิลล์จากอัลฟัลฟ่ามีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดสารก่อมะเร็งมาก
กว่าการใช้สารเพียงตัวใดตัวหนึ่ง 
     เมื่อไม่กี่ปีนี้ น้ำมันพืช (ลิโนเลอิก แอซิค)ได้ถูกรายงานว่าสามารถใช้ลดคลอเรสเตอรอลได้
แต่อย่างไรก็ตามได้มีการค้นพบว่ากกรดไขมันไม่อิ่มตัวอย่างไลโนแลอิก สามารถถูกออกซิไดซ์โดยอนุ
มูลอิสระกลายเป็นไขมันเปอร์ออกไซด์ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อ ดีเอนเอ (DNA) ผนังเซลล์และผนังหลอดเลือดทำให้เซลล์ปกติกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ นอกจากนี้ไขมันตัวนี้อาจจะทำให้เกิดการอักเสบ โรคเบา
หวาน และโรคผิวหนังอักเสบ
     คลอโรฟิลล์ มีคุณสมบัติต่อต้านออกซิเดชั่นและกำจัดอนุมูลอิสระ จึงทำให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคมะเร็งและโรคดังกล่าวข้างต้น
     การบริโภคคลอโรฟิลล์จะทำให้มีภูมิต้านทานต่อโรคเหล่านี้ เพราะโลกในปัจจุบันมีสิ่งแวดล้อมเป็น
พิษทำให้มีสารพิษ สารก่อมะเร็งและอนุมูลอิสระล้อมรอบตัวเราอยู่ทุกขณะ
 
  ป้องกันมะเร็ง : โรคร้ายอันดับหนึ่งของโลก
     มะเร็งเป็นโรคที่น่าสะพรึงกลัวในยุคของเรา และทำลายชีวิตสูงเป็นอันดับ 2 ทั้งๆ ที่มีการค้นคว้าทดลองมาก แต่มนุษย์เป็นจำนวนมากก็ยังต้องตายเพราะโรคมะเร็ง
     มะเร็งเกิดจากเซลล์ร่างกายปกติที่แปรเปลี่ยนสภาพไปเป็นเซลล์มะเร็ง สารก่อมะเร็ง เช่นรังษี
และสารพิษต่างๆ ทำให้เกิดการแปรเปลี่ยนนี้ นอกจากนี้สารเบนซ์ไพรีน (Benzpyrene) ที่พบในเนื้อ
ย่าง เผา ก็เป็นสารก่อมะเร็งเช่นกัน จากการทดลองอย่างละเอียดพบว่า คลอโรฟิลล์สามารถกำจัดปฎิกิริยาที่จะก่อให้เกิดมะเร็งเหล่านี้

   การละลายของเสียในหลอดเลือด
    เราจะป้องกันโรคหัวใจวายได้อย่างไร วิธีป้องกันที่ดีที่สุด ก็คือจะต้องไม่ให้มีปริมาณของเสียเพิ่มขึ้นในเลือดจนไปอุดตันหลอดเลือดหัวใจ
     คลอโรฟิลล์มีสารคลอเรสเตอรอล กำจัดอนุมูลอิสระ (เพราะมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ 2-0-GIV)
ลดการตกตะกอนของเกล็ดเลือดและช่วยละลายของเสียในหลอดเลือดด้วย เหตุนี้ คลอโรฟิลล์สามารถช่วยป้องกันและรักษาโรคหัวใจได้
  ลดระดับคลอเรสเตอรอล
     ความดันโลหิตสูง เป็นสภาวะอันตรายของคนในวัยกลางคนขึ้นไป สาเหตุเกิดจากการสะสมของคลอเรสเตอรอล และหลอดเลือดอุดตัน
     เพื่อป้องกันความดันโลหิตสูง ประการแรกคือ การลดระดับคลอเรสเตอรอล รายงานจากการทดลองพบว่า คลอโรฟิลล์ช่วยลดคลอเรสเตอรอลได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยป้องกันการดูดซึมคลอเรส-
เตอรอล ในทางการแพทย์ในปัจจุบันนี้ได้ใช้สารเบทาซิโทสเตอรอล (Beta setoserol) ช่วยลดระดับ
คลอเรสเตอรอลของคนป่วยที่มีคลอเรสเตอรอลสูง และสารเหล่านี้มีอยู่ในคลอโรฟิลล์ จากอัลฟัลฟ่า
ในปริมาณพอสมควร
     คลอโรฟิลล์ มีประสิทธิภาพสูง ดุจตัวยาที่ใช้ในการลดคลอเรสเตอรอลทางการแพทย์ แต่คลอโร
 ฟิลล์เป็นพลังสีเขียวจากอัลฟัลฟ่าที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 100% จึงไม่มีผลข้างเคียงที่จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค
  โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (เอดส์)
     โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (เอดส์) เกิดจากเชื้อไวรัส ได้ค้นพบในปี 1981 โรคเอดส์มี 2 ชนิด HIV-1
(พบมากในอเทริกาใต้ ยุโรปและเอเซีย) และเชื้อ HIV-2 (พบมากในอัฟริกาตะวันตก)
  ความหวั่นวิตกของการติดโรคเอดส์
     โรคเอดส์ เป็นภัยร้ายแรงที่อาจทำให้มนุษยชาติถึงกับสูญพันธุ์ได้ จึงเป็นที่หวาดหวั่นของทุกคน
โดยเฉเพาะอย่างยิ่งโรคนี้เมื่อเป็นแล้วยังไม่มีวิธีหรือยาใดๆ รักษาได้ในขณะนี้ การแพร่ระบาดทางเพศ
สัมพันธ์ทำให้การป้องกันทำได้ยาก การถ่ายเลือดก็ยังเป็นสาเหตุของการระบาดโรคนี้
  คลอโรฟิลล์กับการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์
     พล้งสีเขียวจากอัลฟัลฟ่านี้มีสารอาหารหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่มีสารชนิดหนึ่งละ
ลายน้ำได้และมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัสเอดส์ สารละลายตัวนี้ยังอาจ
ช่วยป้องกันการเกิดโรคเอดส์ด้วย 
     คลอโรฟิลล์มีสารช่วยกระตุ้นการหลั่งของโปรแลคทีน และฮอร์โมนทำให้เติบโตจากต่อมใต้สมอง สารฮอร์โมนทั้งสองนี้จำเป็นต่อการรักษาระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และช่วยซ่อมแซมการตอบสนอง
ต่อระบบภูมิคุ้มกันตามปกติ นอกจากนี้สารฮอร์โมนทั้งสองยังมีหน้าที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้ฟื้นตัว
     เนื่องจากคลอโรฟิลล์มีอำนาจในการยับยั้งการแพร่พันธุ์ของเชื้อไวรัสเอดส์ ด้วยการเป็นตัวกระตุ้น
ให้มีออกซิเจนในระบบเลือดมากขึ้น ออกซิเจนนี้เองที่จะไปทำให้การเพิ่มขึ้นของไวรัส ลดจำนวนลงในที่สุดและช่วยบำรุงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้อยู่ในสภาพมีพลานามัยดี คลอโรฟิลล์จึงเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการต่อต้านโรคเอดส์ 
     เราได้ตระหนักดีว่าเอดส์เป็นมหัตภัยต่อมนุษยชาติที่จะต้องหาทางกำจัดอย่างรีบด่วน การค้นคว้าทดลองเกี่ยวกับโรคเอดส์ โดยใช้คลอโรฟิลล์ดำเนินการทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากผลการทดลองเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า คลอโรฟิลล์มีประสิทธิภาพสูงในการต่อต้านโรคเอดส์ สิ่งนี้จึงเป็นที่่น่ายินดีและอาจเป็นหนทางใหม่ของการช่วยชีวิตมนุษย์จากโรคนี้ได้
     ผลการวิจัยพบว่าผู้ป่วยด้วยโรคเอดส์จะมีภูมิคุ้มกันผิดปกติและเสื่อมสภาพลงเรื่ิอยๆ ทำให้เกิดการติดเชื้อต่างๆได้ง่ายและหายยากกว่าคนปกติทั่วไป คลอโรฟิลล์จะเข้าไปกระตุ้นต่อมไร้ท่อให้สร้างฮอร์
โมนที่จะไปสั่งงานให้ระบบภูมิคุ้มกันได้อีกส่วนหนึ่ง ทำให้ระยะเวลาของการติดเชื้อของผู้ป่วยโรคเอดส์ห่างออกไปเรื่อยๆจนเกิดการติดเชื้อได้ยากและปกติในที่สุด จะเหลือแต่ HIV ที่ยังคงอยู่ในระบบเลือด แต่ทั้งนี้เลือดที่มีออกซิเจนมากขึ้นและมีความเป็นด่างมากขึ้นจะทำให้ HIV ไวรัสค่อยๆลดจำนวนลงเรื่อยๆ คือ ไวรัสที่เข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของคน ผู้ป่วยโรคเอดส์ไม่ได้ตายเพราะไวรัสชนิดนี้แต่ตายเพราะเชื้อโรคอื่นที่แทรกซ้อนเข้าไป เนื่องจากขาดภูมิคุ้มกัน


สนใจข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาคลิ๊กที่ลิงค์ด้านล่างนี้
http://chlorophyll01.weebly.com
หรือสอบถามทางโทรศัพท์ได้ที่เบอร์
0879753818

ยุง ไม้ไผ่
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น